วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วธ.ห่วงโจ๋หลงผิด นิยมเสียตัว วันวาเลนไทน์



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แนะทุกภาคส่วนอธิบายความหมายที่ถูกต้องของวันวาเลนไทน์ให้เยาวชนป้องกัน ปัญหาพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมก่อนวัยอันควรเมื่อวันที่ 12 ก.พ.53 นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 14 ก.พ.นี้ กลุ่มวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยมีความเข้าใจว่า วันแห่งความรักจะต้องแสดงออกด้วยการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา นายธีระ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนควรเผยแพร่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ความรักที่เกิดในเชิงฉันท์ชู้สาวเพียงอย่างเดียว อาจเป็นความรักของพ่อแม่ รักครอบครัว ความรักต่อเพื่อนฝูง สังคมและชุมชน โดยขอให้ผู้ปกครอง สถานศึกษา หรือแม้แต่สื่อมวลชน ช่วยกันอธิบายความหมายของวันวาเลนไทน์ที่ถูกต้องให้กับเยาวชน มอบความรู้สึกที่ดีต่อกัน ตามครรลองของวัฒนธรรมไทย เพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่ตามมาจากการแสดงออกในทางที่ผิดของเยาวชน

น.ส.ฐิติพร พลอยเกลื่อน หรือ น้องชะเอม นักศึกษาชั้นปีที่ 1 โปรแกรมวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแขนงวิชาธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวถึงมุมมองด้านความรักของตนเองว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามและมีแต่ความสุข เป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับเราทุกๆ คน ทั้งรักจาก ครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว สำหรับวันวาเลนไทน์นั้นตนเองไม่ได้ให้ความสนใจมากนักเพราะไม่ใช่วัฒนธรรมของเรา แต่จะให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่า ยอมรับว่าวัยรุ่นไทยให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากกว่า เพราะเห็นว่าเรื่องการเข้าวัดเป็นเรื่องของผู้สูงอายุเท่านั้นและมองว่าวัยรุ่นไทยมีค่านิยมที่ผิดที่คิดมีเพศสัมพันธ์กันเพื่อแสดงความรักในวันวาเลนไทน์เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม จะทำให้พ่อแม่ซึ่งเป็นผู้ที่รักเรามากที่สุดต้องเสียใจและจะกลายเป็นปัญหาสังคมตามมา ซึ่งการแสดงความรักต่อกันนั้นสามารถทำได้แต่ควรแสดงออกในทางที่ถูกและสร้างสรรค์ ด้วยการแสดงความรักต่อพ่อแม่ หรือคนรักโดยการไปทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทานที่วัดต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ก็จะส่งผลให้ความรักของเราดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
น.ส.จิราภรณ์ สิงห์เอี่ยม หรือน้องจูน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 โปรแกรมวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแขนงวิชาการโรงแรม คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวถึงมุมมองของตนเองเรื่องความรักว่า ไม่ควรจะนึกถึงแต่คนรักหรือแฟนเท่านั้น แต่จะมองรวมไปถึงความรักของพ่อแม่ อาจารย์กับศิษย์ เพื่อนต่อเพื่อน ตลอดจนสิ่งต่างๆ ที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันด้วย แต่ตนเองยอมรับว่าเมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์จะนึกถึง
วันวาเลนไทน์ก่อนทุกครั้งเพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัว อย่างเพื่อนที่มีแฟนพอใกล้ถึงวันที่ 14 ก็จะคุยว่าจะซื้อของขวัญอะไรให้แฟน และตามร้านต่างๆ มีแต่ของเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ขาย แถมด้วยการมีข่าวต่างๆ เกี่ยวกับความรักมากมาย เช่น การจดทะเบียนสมรสในสถานที่แปลกๆ การดำน้ำ การปีนเขา อย่างวันมาฆบูชาตนเองเห็นว่าเป็นวันสำคัญทางศาสนา เป็นวันแห่งการถือศีล ปฏิบัติธรรม ตนเองและครอบครัวก็จะไปทำบุญกับครอบครัว สำหรับสิ่งที่อยากจะฝากถึงวัยรุ่นไทยในปัจจุบันว่า การที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากกว่านั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องไม่ลืมวันสำคัญทางศาสนาและการแสดงความรักนั้นมีหลากหลายวิธี เช่น กินข้าว ดูหนัง ทำกิจกรรมซึ่งเป็นการมอบความรักในทางที่ถูกต้องต่อกันได้
นายกีรติ ลัดดาวัลย์ หรือน้องเบสท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 โปรแกรมวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แขนงวิชาธุรกิจการโรงแรม คณะวิทยาการจัดการ ศูนย์หัวหิน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวถึง
วันวาเลนไทน์ว่าเป็นวันที่สามารถแสดงความรักให้กับทุกๆ คนโดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนรักเพียงอย่างเดียว หรือมุ่งเน้นไปที่บุคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนหันมาแสดงความรักกับสิ่งแวดล้อมบ้างเชื่อว่าหลายคนมักมองข้ามไป ปัญหาภาวะโลกร้อน ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว หรือแม้แต่ฝนตกนอกฤดู ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันที่เกิดจากการที่เราไม่รักสิ่งแวดล้อมกันทั้งสิ้น จึงอยากให้ทุกๆ ในสังคมหันมารักสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ส่วนปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ ตนเห็นว่าไม่ใช่แค่วันวาเลนไทน์ที่วัยรุ่นเดี๋ยวนี้นิยมมีเพศสัมพันธ์กันแต่เพราะในทุกๆ เทศกาลก็มักจะเห็นข่าวตามสื่อต่างๆ มากมายเช่นกัน จึงอยากให้วัยรุ่นไทยตระหนักถึงปัญหาที่จะตามมาทั้งทางสังคม วัฒนธรรม รวมไปถึงตัวของวัยรุ่นเองด้วย สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ โรงเรียน สถานศึกษาคงต้องช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรม และภาครัฐควรมีมาตรการที่เข้มงวดในสถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมมากขึ้น ควรมีการรณรงค์เรื่องลดเลิกการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ ก็คงจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
รศ.พัชรี สวนแก้ว รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวถึง
วันวาเลนไทน์ว่า สังคมไทยในปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น แม้แต่วัยทำงานเองก็ยังให้ความสนใจวันวาเลนไทน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ต้องยอมรับว่าสื่อในปัจจุบันมีผลต่อความคิดของเยาวชนมากยิ่งเป็นสื่อที่เข้าถึงเยาวชนได้มาก ยิ่งส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีสื่อมากมายทั้งวิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต เมื่อได้รับกระแสจากสื่อที่เผยแพร่เรื่องราวนั้นซ้ำกันบ่อยครั้ง โดยธรรมชาติเยาวชนก็รับสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาปฏิบัติตามและทำตามกระแสเพื่อให้ทันสมัยเข้ากับเพื่อนได้ และไม่แปลกที่วันวาเลนไทน์จะมีคนให้ความสนใจมากกว่าวันมาฆบูชา ถามว่าทั้งสองวันนี้สื่อให้ความสำคัญกับวันใดมากกว่ากัน ห้างร้านต่างๆ ที่เป็นแหล่งรวมของวัยรุ่น มีการประชาสัมพันธ์ถึงวันไหน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อความคิดของวัยรุ่นทั้งสิ้น และเยาวชนไทยยังมองว่าการเข้าวัดเป็นการกระทำที่เชย โบราณ เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้เด็กไทยห่างเหินจากวัด หากจะแก้ไขพฤติกรรมของวัยรุ่น รศ.พัชรี เสนอว่า
แม้วันสำคัญทางศาสนาจะถูก “เบียด” ด้วยวัฒนธรรมฝรั่ง แต่ยัง “แอบยิ้ม” ได้บ้างที่เห็นวัยรุ่นไทยไม่ถูกตะวันตก “ครอบงำ” จนลืมวันสำคัญทางศาสนา และอยากจะบอกว่า...ความรักมีหลาก...หลาย รูปแบบ หลายแง่ หลายมุม เป็นทั้งสิ่งที่เป็นประโยชน์...เป็นโทษ...เป็นดาบสองคม แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการมีรักก็คือ “การรู้จักรักให้เป็น”


ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ เสรีรายวันชี้เหตุความเชื่อ "ใครๆ เขาก็มีเซ็กซ์กัน" ต้นตอนำวัยรุ่นดิ่งสู่การมั่วเซ็กซ์ ยึดวันวาเลนไทน์เสียตัว "ทราย เจริญปุระ"จวกผู้ใหญ่สำรวจตัวเองอย่าดีแต่ว่าเด็ก ระบุหากวัยโจ๋นับถือตัวเอง ปัญหามั่วเพศจะไม่เกิด
ช่วงใกล้วันวาเลนไทน์ หลายหน่วยงานเริ่มเตรียมหาแนวทางป้องกันไม่ให้วัยรุ่นมีค่านิยมที่ผิดๆ เช่น นัดมีเพศสัมพันธ์กันในวันพิเศษ และเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ศูนย์สุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ได้มีการเสวนาถึงแนวทางการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยเชิญดารา นักร้อง และนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นมาแบ่งปันประสบการณ์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างเปิดเผย ในประเด็นที่ว่า วัยรุ่นทำไมชอบยึดวันวาเลนไทน์เป็นวันเสียตัว
เช่นเดียวกับนายทศวุฒิ รัตนกุญชร ดีเจคลื่น 85.0 แซดทอล์ก ที่เชื่อว่าในวันพิเศษนี้ วัยรุ่นบางกลุ่มมักใช้เป็นวันที่ฝ่ายหญิงจะมอบความบริสุทธิ์ให้ฝ่ายชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่จะเป็น หากคนมองความรักในแง่ดีว่าไม่จำเป็นต้องสัมผัส ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าคนเชื่อว่าวันวาเลนไทน์จะต้องเติมเต็มไปด้วยความรักก็อาจจะหมายถึงเสียตัวด้วย
ขณะที่นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่เข้าร่วมเสวนา กล่าวว่า ตนก็เป็นคนหนึ่งที่มีเพื่อนอยู่ในสังคมที่มีความเชื่อลักษณะนี้ บางคนเป็นเด็กเรียบร้อยมาก่อน แต่เมื่อมาเข้ากลุ่มก็จะคล้อยตาม และมีพฤติกรรมเลียนแบบกันไป
เช่น ชอบเที่ยวกลางคืนและมีเพศสัมพันธ์กับแฟน โดยส่วนตัวเชื่อว่า สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาเด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ด้านน้องตวง-สาวิกา ไชยเดช ดาราวัยรุ่นชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต และเป็นนักศึกษารั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ความรักของวัยรุ่นเป็นเรื่องธรรมชาติ มันจะมีมาเองตามวัย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไร วันวาเลนไทน์ก็คือวันธรรมดาๆ วันหนึ่งเท่านั้น วัยรุ่นควรจะรู้ว่าหน้าที่ของตัวเองคือการเรียนอย่าไปหมกมุ่นว่าวันวาเลนไทน์จะต้องมีเซ็กซ์หรืออะไร จริงอยู่การมีเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่มันก็เป็นไปตามวัย อย่าขวนขวายหาจนทำให้ต้องสูญเสียการเรียนและอนาคต
สำหรับหัวข้อที่ว่า "ใครๆ เขาก็มีกัน ทำไมเราจะมีบ้างไม่ได้" นั้น พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นที่อยากรู้ อยากเห็น และอยากลอง ส่วนหนึ่งอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้หลุดเข้าไปในวงจรอุบาทว์ ตั้งแต่วงการธุรกิจที่เขาไม่ได้คิดอะไร
นอกจากทำอย่างไรก็แล้วแต่ให้สินค้าเขาขายได้ กระตุ้นให้เด็กถลำลึกจนผม่ไม่กลับ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเขารู้ว่าผลเสียที่เกิดตามมาเป็นอย่างไร เชื่อว่าเขาเองก็คงตกใจเหมือนกัน
ดังนั้น แนวทางแก้ไขคือต้องช่วยกันปลูกจิตสำนึก โดยอาจจะเริ่มจากสื่อสารมวลชน ที่เป็นผู้จุดกระแสได้ง่าย จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้เด็กตัวเล็กๆ ก็มักจะมอบความรักกันด้วยดอกไม้หรือรูปหัวใจกันแล้ว
เช่นเดียวกับ นพ.สุรชัย อินทรประเสริฐ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่เห็นว่าวัยรุ่นได้รับการกระตุ้นจากสื่อที่มีอิทธิพลอย่างสูง ในการที่จะยึดถือและปฏิบัติตามเรื่องความรัก เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติแต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม เมื่อก่อนแต่งงานกันเร็ว เพราะมีวัยเรียนช่วงสั้น แต่ปัจจุบันกว่าจะเรียนจบบางคนเกิน 25 ปี ทำให้ต้องมีการปลดปล่อยในช่วงวัยนี้ ซึ่งหากควบคุมไม่ได้ก็จะเกิดความสูญเสียตามมา
ด้าน ทราย เจริญปุระ เจ้าของฉายา นางเอกร้อยล้าน กล่าวว่า ความจริงแล้วปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรนั้น ผู้ใหญ่เองก็สามารถทำให้มันชะลอตัวได้ ผับ-เธคที่เปิดให้บริการกันในวันวาเลนไทน์นั้น ส่วนใหญ่ก็จะมีแคมเปญเปิดเหล้าฟรีสำหรับคู่รัก อยากย้อนถามไปยังผู้ใหญ่ด้วยว่า เด็กเคยไปกำหนดอะไรเหล่านี้ไหม จริงอยู่ธุรกิจก็ต้องทำมาหากินกับเทศกาล แต่ก็น่าจะทำวันนี้ให้เหมือนกับทุกวันจะดีกว่าไหม เด็กจะได้ไม่เข้าไปมั่วสุม เพราะการดื่มเหล้าถ้าเกินลิมิต มันก็จะเกิดการอยากรู้อยากลอง
"วันวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญมากๆ สำหรับวัยรุ่น ใครที่ไม่ได้ดอกกุหลาบ มันไม่ใช่แค่เสียใจ แต่มันแทบจะตายเลยทีเดียว ดังนั้น เด็กต้องนับถือตัวเอง รักน่ะรักได้ แต่ต้องมีขอบเขต และอย่าสร้างปมด้อยให้กับตัวเองว่าทำไมถึงไม่มีคนรัก" นางเอกสาวกล่าวและว่า คำว่า กิ๊ก ที่พูดๆ กัน ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และมีมานานแล้ว จะเห็นว่าผู้ใหญ่มักจะรู้อะไรหลังเด็กเสมอ
แต่พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ วัยรุ่นก็มีพฤติกรรมเลียนแบบมาจากผู้ใหญ่นั่นแหละ ผู้ใหญ่ก็มีเมียน้อยได้หลายๆ คน พอเด็กมีกิ๊กหลายคนก็มาตกใจ และโดยส่วนตัวก็มองว่ากิ๊กไม่ใช่แค่เพื่อน ไม่ใช่แฟน และก็เป็นเหมือนชู้ ถ้าจะสรุปก็คือเมียน้อยดีๆ นี่เอง
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือหมอเบิร์ด จิตแพทย์จากโรงพยาบาลศรีธัญญา อดีตนางสาวไทย กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ใหญ่กังวลไม่ใช่เรื่องที่ลูกหลานมีแฟน หรือมีกิ๊ก แต่สิ่งที่เดือดร้อนคือ เด็กผิดหวังและยิงกันตาย คลอดลูกแล้วทิ้ง บางรายทำแท้ง สมัยที่ตนเป็นนักเรียนแพทย์ เคยมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาคลอดลูกหน้าห้องคลอดพ่อกับแม่มารอเพื่อนำลูกไปเข้าพิธีแต่งงานในวันนั้น เพราะจับได้ว่าลูกไปแอบมีสามีโดยไม่บอกกล่าว








โพลวาเลนไทน์ชี้ปัญหาศก.-การเมือง ทำโจ๋เซ็กซ์หด"

สวนดุสิต โพล ชี้ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง
ทำความต้องการทางพศวันวาเลนไทน์วัยโจ๋ลดลง เผยเด็กไทยดูหนังลามกตั้งแต่ก่อน 10 ขวบ มีเซ็กซ์ครั้งแรก 10 ขวบ "มาร์ค" แซง "แม้ว" เป็นบุคคลที่วัยรุ่นต้องการซื้อดอกไม้มากที่สุดเมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวในงานแถลงข่าว "รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้ ด้วยตัวคุณเอง (White Valentine " design your love) เนื่องในวันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ว่า สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นเยาวชนไทยอายุระหว่าง 15-24 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่าง 17-31 มกราคม 2552เกี่ยวกับกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ เนื่องในวันวาเลนไทน์ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,008 คน เป็นชาย 422 คน หญิง 579 คน และเพศที่สาม 7 คน พบว่า สิ่งที่ต้องการทำมากที่สุด ร้อยละ 26 บอกว่าซื้อของให้คนรัก ร้อยละ 13 ซื้อดอกกุหลาบให้ ร้อยละ 10 กินอาหารด้วยกัน และร้อยละ 5 ต้องการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งถือว่าลดลงกว่าปีที่ผ่านมาที่วัยรุ่นต้องการมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไท น์ ร้อยละ 12 ซึ่งปัจจัยอาจเนื่องมาจากความวุ่นวายทางการเมืองและภาวะทางเศรษฐกิจทำให้ อารมณ์ความรู้สึกรักใคร่ โรแมนติกลดลงรศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า คน ที่อยากให้ดอกไม้มากที่สุด คือ คนรัก/แฟน ร้อยละ 46 พ่อแม่ ร้อยละ 26 เพื่อน ร้อยละ14 ดาราร้อยละ 4 และนักการเมืองร้อยละ 2.82 ในส่วนของนักการเมืองบุคคลที่วัยรุ่นต้องการมอบดอกไม้ให้มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 3.นายชวน หลีกภัย 4.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ 5.บารัค โอบามา โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ พบว่า มีอันดับที่สูงขึ้นจากเดิมอยู่ลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นผลมาจากบุคลิกภาพส่วนตัว รูปร่างหน้าตา และภาวะความเป็นผู้นำรศ. ดร.สุขุม กล่าวว่า เมื่อถามถึงเว็บไซต์โป๊ ร้อยละ 34 ตอบว่าเคยดู ส่วนใหญ่ดูครั้งแรกเมื่ออายุ 10-19 ปี และมีร้อยละ 3 ที่เคยดูตอนอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยร้อยละ 48 บอกว่ารู้สึกตื่นเต้น เกิดอารมณ์/ความต้องการทางเพศขณะดู และร้อยละ 31 บอกว่าสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหรือมีเพศสัมพันธ์ระหว่างดู ร้อยละ 5 รังเกียจ ร้อยละ 4 อาย และ ร้อยละ 2 รู้สึกตลก โดยกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 38 ตอบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 37 ในรอบปีที่ผ่านมา ร้อยละ 31 เคยติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเมื่อสงสัยว่าอาจมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 62 จะไปโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือคลินิก และมีร้อยละ 6 ที่ตอบว่าซื้อยากินเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาตามมาได้ พบ ว่ากลุ่มตัวอย่างมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกมากที่สุดร้อยละ 37 อายุ 15-16 ปี ร้อยละ 3.19 อายุ 11-12 มีร้อยละ 1.86 อายุ 10 โดยบุคคลที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยร้อยละ 85 เป็นคนรัก/แฟนร้อยละ 6 เพื่อน แฟนเก่าร้อยละ 4 และหญิงขายบริการร้อยละ 1 มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งกับคู่นอนที่ไม่ประจำ ร้อยละ 53"รศ.ดร.สุขุม กล่าวนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ. ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยรณรงค์ให้เยาวชนไทยตระหนักถึงอันตรายใกล้ตัว และส่งเสริมค่านิยมเกี่ยวกับความรักที่เหมาะสม รักตัวเอง พ่อแม่ ครอบครัวให้มากๆ และรู้จักป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคเอดส์ เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากเรียนรู้ ชอบค้นหาและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มักจะให้ความสำคัญและทุ่มเทสรรหาสิ่งที่คิดว่าเป็นตัวแทนแสดงถึงความรักให้ กับคนรักเป็นพิเศษ"สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากคือ การแสดงออกถึงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งการตั้งครรภ์โดยยังไม่พร้อม และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลชี้ชัดให้เห็นว่าสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง ขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมถุงยางป้องกันทุกครั้ง" นายวิทยากล่าวนาย วิทยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่ผลสำรวจระบุว่า กิจกรรมที่วันรุ่นอยากทำให้วันวาเลนไทน์มากที่สุด คือ การซื้อของขวัญ หรือให้ดอกไม้กับคนรัก เพราะมนุษย์โลกต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรัก โลกจะสงบสุขขึ้น แต่ถ้ามนุษย์โลกยังมีแต่ความขัดแย้งโลกก็จะไม่น่าอยู่ ส่วนผลสำรวจระบุว่า นักการเมืองที่วัยรุ่นอยากมอบดอกไม้ให้มากที่สุดคือ นายอภิสิทธ์นั้น ในฐานะประชาชนก็รู้สึกยินดีที่หัวหน้าคณะรัฐบาลได้เป็นนักการเมืองที่กลุ่ม วัยรุ่น ชื่นชอบมากที่สุดนพ. ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค พบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ป่วยมากที่สุด คือ โรคหนองใน รองลงมาคือ หนองในเทียม ซิฟิลิส กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง และแผลริมอ่อน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-24 ปี ทั้งนี้ โรคหนองในเป็นตัวบ่งชี้การแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ ที่นำไปสู่การระบาดของโรคเอดส์ ซึ่งมีรายงานว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษามีแนวโน้มป่วยด้วยโรคหนองในเพิ่มขึ้น โดยในปี 2545 มีผู้ป่วย 3.03 ต่อแสนประชากร เพิ่มเป็น 4.61 ต่อแสนประชากร ในปี 2549 สอดคล้องกับข้อมูลร้านขายยา ย่านพัฒนพงษ์ และสุขุมวิท ปี 2548 ที่มีผู้มาซื้อยารักษาโรคหนองใน ร้อยละ 27 ของผู้มาซื้อยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมดนพ. ปราชญ์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์โรคเอดส์ของไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคม มีรายงานผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 345,196 ราย เสียชีวิตแล้ว 93,034 ราย สาเหตุเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด ร้อยละ 84 รองลงมาคือ การใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ร้อยละ 4.6 ติดเชื้อจากมารดา ร้อยละ 3.8 และจากการรับเลือด ร้อยละ 0.02 ซึ่งแนวโมของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าในอดีต เนื่องจากการเข้าถึงยาต้านไวรัส ทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า ในปี 2552 ไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอดส์สะสมประมาณ 1,127,168 ราย เสียชีวิต 613,510 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,753 รายทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ "รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้ ด้วยตัวคุณเอง" ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.00 น.-19.00 น. ที่อาคารสายสุทธานภดล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการแสดงดนตรี การประกวดออกแบบโปสตอร์ ประดิษฐ์สิ่งของจากถุงยาง เป็นต้น ผู้สนใจสามารถร่วมงานได้ฟรี



สื่อรักออนไลน์ ภัยมืดวาเลนไทน์




ปัญญาสมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย เสนอผลวิจัย "การกระทำความรุนแรงผ่านเทคโนโลยีในโลกไซเบอร์ : ภัยมืด ภัยร้ายของวัยรุ่นไทย" พุ่งเป้าให้ความสำคัญไปที่ปัญหาภัยจากโลกไซเบอร์ที่พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น...โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแห่งความรัก รายงานชิ้นนี้สำรวจความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับรูปแบบและพฤติกรรมการกระทำความรุนแรงของวัยรุ่นไทยผ่านเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่...โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ต สัมภาษณ์เยาวชนที่กำลังศึกษาในสถานศึกษาทั้งรัฐ...เอกชน ในเขตกรุงเทพฯ 2,000 ราย ไล่เรียงตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา ไปจนถึงปริญญาตรี ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า กลุ่มเยาวชน มากกว่าร้อยละ 50 เห็นว่าพฤติกรรมการข่มเหงรังแกผ่านโลกไซเบอร์ มากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความด่าทอผู้อื่นผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต การส่งข้อความ/ข้อมูลที่เป็นความลับของบุคคลให้กับผู้อื่น พวกเขาเห็นว่า การคุกคามผู้อื่นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ เป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง และมีทัศนคติไม่เห็นด้วย แต่กระนั้นก็รู้สึกว่า การกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนก็ทำ และสามารถทำได้ตามอำเภอใจได้ด้วยเช่นกัน เพราะเยาวชนร้อยละ 44 เคยถูกนินทาหรือด่าทอผ่านมือถือ ห้องสนทนา ในขณะที่ร้อยละ 30 เคยถูกส่งข้อความก่อกวนผ่านทางมือถือ อีเมล์ หรือเว็บไซต์มาแล้ว ความเห็นเหล่านี้ สะท้อนชัดสังคมออนไลน์ให้โทษขึ้นเรื่อยๆ มีแนวโน้มจะทำลายเด็กและเยาวชนอย่างรุนแรง จนถึงขั้นที่เรียกว่าอาชญากรรมได้เลย พบอีกว่า การโพสต์ข้อความด่าทอกันใน Hi5 หรือการใส่ร้ายป้ายสีในห้องสนทนา ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับบุคคลมีชื่อเสียงอย่างที่เราพบเห็นในข่าวเท่านั้น แม้แต่เยาวชนต่างก็รับรู้ว่า มีการรังแกกันผ่านโลกไซเบอร์เกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา แม้ว่าเยาวชนมากกว่าร้อยละ 50 จะเห็นว่าพฤติกรรมการข่มเหงรังแกผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องและไม่เห็นด้วย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีเยาวชนมากกว่า 1 ใน 3 เห็นด้วย และเห็นด้วยอย่างยิ่งผ่านคำตอบว่า... 1) "ฉันรู้สึกว่าผู้กระทำสนุกสนาน" 2) "ฉันเห็นว่าทุกคนมีอิสระที่จะทำตามที่ตนเองต้องการ" 3) "ฉันเห็นว่าผู้ที่กระทำได้ระบายความรู้สึก" ข้อค้นพบนี้สื่อให้เห็นว่า การข่มเหงรังแกกันผ่านโลกไซเบอร์ในทรรศนะของเยาวชนไทย มีแนวโน้มที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถกระทำได้ตามอำเภอใจ ยังพบอีกว่า ผู้รังแกบุคคลอื่นผ่านโลกไซเบอร์นั้น รังแกผู้อื่นโดยการนินทา หรือด่าทอผู้อื่นผ่านมือถือ ห้องสนทนา หรือเว็บไซต์เป็นส่วนมาก และเกิดในกลุ่มนักเรียนมัธยมในสถานศึกษาเอกชน นักเรียนในโรงเรียนอาชีวะทั้งของรัฐบาล...เอกชน มากกว่านักเรียนมัธยมที่ศึกษาในสถานศึกษาของรัฐ นักศึกษามหาวิทยาลัย ลงลึกในรายละเอียด เมื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ของการข่มเหงรังแกกันผ่านโลกไซเบอร์กับลักษณะของครอบครัว ก็พบความจริงที่น่าสนใจอีกว่า... ในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษาอันเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มกระทำการรุนแรงผ่านโลกไซเบอร์มากกว่ากลุ่มอื่น มักมาจากครอบครัวของบิดามารดาเลี้ยงเดี่ยว บิดามารดามีการศึกษาระดับปานกลาง และมีอาชีพรับจ้างทั่วไปเป็นหลัก ข้อค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่า ความอบอุ่นและสภาพเศรษฐกิจของครอบครัว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พ่อแม่ไม่มีเวลา หรือไม่ใส่ใจในการอบรมสั่งสอนเชิงคุณธรรมแก่ลูกมากพอ หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ให้เห็นความย่อหย่อนในการทำหน้าที่ของครอบครัว คือ...การที่นักเรียนอาชีวะเหล่านี้ ใช้เวลาในการเล่นอินเตอร์เน็ตมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อครั้ง และเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ระบุว่า ตนเองมีอำนาจที่สุดในครอบครัว ทั้งนี้เพราะไม่ได้อยู่กับครอบครัว หรืออาจอยู่ตามลำพังที่หอพักหรือห้องเช่า ที่น่าตกใจ...ร้อยละ 48 ของเยาวชนกลุ่มนี้ ก็เห็นว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวตนเองเป็นเรื่องปกติ ข้อมูลจากงานวิจัยของปัญญาสมาพันธ์ฯค่อนข้างชี้ชัดว่า โรงเรียนอาชีวะเอกชน เป็นเป้าหมายเร่งด่วนที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญ นอกจากการกระทำรุนแรงทางกาย อาทิ การยกพวกทำร้ายกันแล้ว ยังมีความรุนแรงแฝงอยู่ในรูปการสื่อสารด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่น่าห่วงใย ถึงวันนี้...ยังไม่มีหน่วยงานใดมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งในด้านการป้องกัน แก้ไข และการออกข้อกำหนดเชิงนโยบายที่เท่าทันต่อปัญหา ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ รวมถึงผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดเยาวชนจึงต้องควบคุมดูแลการใช้เครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น ไม่ให้เด็กอยู่กับโลกไซเบอร์นานและบ่อยเกินไป ที่ขาดไม่ได้...ครอบครัวจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันแก่เยาวชนให้มีจิตใจเข้มแข็ง มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่ยอมปล่อยให้โลกออนไลน์ทั้งหลายมีอิทธิพลเหนือชีวิตตัวเอง ปัญญาสมาพันธ์ฯ มีเป้าหมายพัฒนาศาสตร์ด้านการสำรวจความเห็นสาธารณะสำหรับประเทศไทยในด้านต่างๆ เพื่อสร้างฐานข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนในการนำไปเป็นแนวทางในการวางแผนหรือกำหนดนโยบาย อาจารย์ศิวพร ปกป้อง ในฐานะคณะทำงานปัญญาสมาพันธ์ฯ และรองผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า เราเล็งเห็นถึงปัญหาสังคมในยุคสมัยที่เทคโนโลยีอยู่ในชีวิตประจำวันของเยาวชนและวัยรุ่นไทย "แม้เทคโนโลยีจะมีข้อดี แต่ก็เกิดการใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นสื่อในการข่มขู่ คุกคาม ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง เดือดร้อน เป็นอันตรายต่อคุณภาพชีวิต..." อาจารย์ศิวพร ย้ำว่า งานวิจัยชิ้นนี้ น่าจะกระตุ้นให้ภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในด้านนี้ เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริง กระทั่งมีการจัดการที่ช่วยให้ปัญหาพิษภัยนี้เบาบางลงจนหมดไปได้ ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้ เป็นช่วงที่เยาวชน วัยรุ่นค่อนข้างให้ความสำคัญ บางกลุ่มมีความเชื่อในทางที่ผิด ฉวยโอกาสในการข่มขู่ คุกคาม ล่อลวงทางเพศ เผยแพร่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในโลกอินเตอร์เน็ต ปัญญาสมาพันธ์ฯจึงอยากจะสะท้อนปัญหาจากผลวิจัยนี้ เพื่อให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปปรับใช้เพื่อกำหนดนโยบาย ข้อปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป "การที่เด็กผู้หญิงถูกคนที่รู้จักในห้องแชตล่อลวงไปข่มขืน...ถูกจับถ่ายรูป นำไปโพสต์แบล็กเมล์ เป็นภัยจากโลกไซเบอร์ที่สังคมตระหนัก และพยายามกระตุ้นเตือนมาตลอด... แต่หารู้ไม่ว่าผู้ร้ายในโลกไซเบอร์อาจไม่ใช่...มารสังคม อย่างที่เราเรียกกัน แต่เป็นเยาวชนนี่แหละที่เป็นผู้คุกคามกันและกัน โดยใช้ อุปกรณ์สื่อสารนานาชนิดเป็นเครื่องมือ" เทศกาลวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ทุกปี สิ่งที่สังคมไทยเพ่งเล็งคงหนีไม่พ้นพฤติกรรมการแสดงความรักของวัยรุ่นที่เกินขอบเขต จนถึงขั้นทำให้โรงแรมม่านรูดแน่นขนัด ซึ่งท้ายที่สุด...เมื่อไม่อาจแก้ไขที่ต้นเหตุได้ ก็ดูเหมือนว่าการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด...ที่ทำกันได้ "คงไม่ดีแน่ ถ้าผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเช่นนี้ไปตลอด เนื่องจาก...ตัวเร่ง ที่ทำให้สภาพสังคมเสื่อมทรามลงทุกขณะ ซึ่งมีชื่อว่า...โลกไซเบอร์ กำลังก้าวหน้าและเข้าถึงง่ายขึ้นทุกที"



สธ.เตือนวาเลนไทน์ วัยรุ่นไหวทันสื่อไอทีลดความเสี่ยงทางเพศ
Fri, 2010-02-12 06:01
วาระวันวาเลนไทน์ รมว.สาธารณสุข เตือนระวังสื่อออนไลน์ครอบงำวัยรุ่นเพิ่มความเสี่ยงทางเพศ พ่อแม่คุมไม่ถึงตามเทคโนโลยีไม่ทัน กรุงเทพโพลล์เผยวัยรุ่นชี้ผู้ใหญ่อคติ ‘เสียตัววันวาเลนไทน์’

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.53 ที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิตแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "ฉลาดรักยกกำลังสาม รู้ใจ ไหวทัน ป้องกันได้" เพื่อป้องกันสถานการณ์ความเสี่ยงของวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์
นางพรรณสิริ กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ปีนี้ ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิตจัดทำโครงการฉลาดยกรักกำลังสาม รู้ใจ ไหวทัน ป้องกันได้ เพื่อกระตุ้นให้วัยรุ่น ครอบครัว และสังคม มีความไหวทันต่อสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆที่อาจนำไปสู่ภัยทางเพศ และให้ครอบครัวมีแนวทางป้องกันความเสี่ยงทางเพศในวัยรุ่นในเทศกาลวันวาเลนไทน์ โดยรู้ใจหมายถึง การรู้ใจตนเองจากการทบทวนอารมณ์ ความคิดของตนเองที่อาจมีอิทธิพลต่อการเกิดความเสี่ยงทางเพศ ไหวทันหมายถึง การไหวทันต่อสถานการณ์เสี่ยง ไหวทันต่ออิทธิพลของสื่อไอที และรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้อื่น ป้องกันได้ หมายถึง การพัฒนาวัยรุ่นให้มีทักษะชีวิต ในการปฏิเสธและป้องกันตนเองจากภัยทางเพศ รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพครอบครัวให้ป้องกันเยาวชนจากภัยทางเพศได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้ให้กรมสุขภาพจิตเปิดบริการให้คำปรึกษาครอบครัว ทั่วประเทศมีกว่า 20 ล้านครอบครัว ในด้านการเลี้ยงดูลูกยุคไอที รวมทั้งการปรึกษาปัญหาครอบครัว นำร่องที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นแห่งแรก และจะขยายผลไปทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ครอบครัวมีทักษะให้คำปรึกษาการเลี้ยงดูลูกให้มีความไหวทันต่อ สถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ อาจนำไปสู่ภัยทางเพศ และมีแนวทางป้องกันความเสี่ยงทางเพศในวัยรุ่น
นางพรรณสิริ กล่าวอีกว่า ขณะนี้วัยรุ่นไทย มีประมาณ 16 ล้านคนทั่วประเทศ มีความเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะทางเพศ เนื่องจากมีปัจจัยมาจากปัญหาสังคมอื่นๆอาทิ การลุ่มหลงกระแสวัตถุนิยม อิทธิพลของสื่อออนไลน์ โดยสื่อออนไลน์ในขณะนี้ มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นและเยาวชนสูงมาก เครื่องมือที่ใช้มากที่สุดคือมือถือ
"จากผลสำรวจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2551 พบประชาชนที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ร้อยละ 51 ใช้โทรศัพท์มือถือ มากที่สุดในกทม.ใช้ 73% โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือที่ติดตัว 24 ชั่วโมง มีลูกเล่นมากมาย ทั้งส่งข้อความ ส่งรูป เป็นเสมือนดาบสองคม หากรู้จักใช้ให้ถูกทาง ก็จะสร้างความรู้ สร้างความใกล้ชิดทางจิตใจได้ หากใช้โดยขาดความระมัดระวังหรือเหมาะสมอาจนำภัยมาสู่ตัวเอง และในส่วนของพ่อแม่ผู้ปกครองวัยรุ่น ขณะนี้สถานการณ์น่าห่วงเนื่องจากเผชิญภัยวิกฤติหลายประการ นอกจากมีอัตราการหย่าร้างในครอบครัวสูงขึ้นจากอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ในปี 2542 เป็นอัตราส่วน 3 ต่อ 1 แล้ว ยังต้องเผชิญกับการเลี้ยงดูลูกในยุคไอทีด้วย" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ด้าน นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ได้สำรวจ "วัยรุ่นไทย : สื่อรักวาเลนไทน์ 2010 ในเขตกทม." ที่ได้เก็บข้อมูลวัยรุ่นระดับมัธยมต้นถึงมหาวิทยาลัย จำนวน 1,320 คน และพ่อแม่/ ผู้ปกครองที่มีลูกกำลังเรียนในมัธยมต้นและมัธยมปลาย จำนวน 583 คน ระหว่างวันที่ 5ม.ค. 2553 – 1ก.พ. 2553 พบว่า วัยรุ่น 1ใน 2 หรือร้อยละ 47 มีความเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนในวันวาเลนไทน์ หากแฟนขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า จากการสำรวจพบว่า กลุ่มเสี่ยงเป็นชายมากกว่าหญิง 2 เท่าตัว ส่วนในกลุ่มของพ่อแม่/ผู้ปกครอง พบว่า 1 ใน 4 คน หรือร้อยละ29 มีความรู้ความเข้าในการใช้ไอทีน้อยถึงน้อยที่สุด แต่ก็นิยมซื้อไอทีให้ลูกหลาน โดยซื้อโทรศัพท์มือถือ เป็นอันดับหนึ่ง 89% อันดับสอง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 32% และอันดับสาม เครื่องเล่นวิดีโอเกม 34% แต่ปัญหาที่พบ คือ พ่อแม่ส่วนมาก 2 ใน 3 คน หรือ 66% ไม่เคยเข้าไปตรวจสอบการรับข้อมูลในไอทีของลูกหลาน และไม่มีการควบคุมการใช้สื่อไอทีของลูกหลานถึง 44%
นพ.ชาตรี กล่าวอีกว่า จากผลการสำรวจยังพบว่า มีผลให้พ่อแม่/ผู้ปกครอง 67% มีความกังวลต่อการเข้าถึงเนื้อหาทางเพศของลูกหลาน พ่อแม่/ผู้ปกครอง 73% มองว่าวัยรุ่นไทยมีการแสดงออกในวันวาเลนไทน์ไม่เหมาะสม และ 48% ห่วงวัยรุ่นยังมีความเสี่ยงทางเพศในเทศกาลวาเลนไทน์ จากการเห็นภาพโป๊เปลือย โดยผลการสำรวจนี้ชี้ให้เห็นว่าสังคมไหวทัน และมีแนวทางการป้องกันสถานการณ์ความ เสี่ยงของวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ โดยการสร้างพลังแก่ครอบครัวให้ไหวทันและป้องกันภัยทางเพศแก่ลูกได้
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวด้วยว่า กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์โดยร่วมมือกับบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ให้วัยรุ่นส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอส ที่สร้างสรรค์ จัดทำองค์เอกสารความรู้เผยแพร่ทางเว็บไซต์
www.icamtalk.com และเปิดห้องครองใจ ที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นฯ โดยมีทีมสหวิชาชีพ ได้แก่ พยาบาลจิตเวช นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา ให้บริการปรึกษาครอบครัว เป็นช่องทางบริการที่เข้าถึงได้ง่าย ป้องกันปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น

กรุงเทพโพลล์เผยวัยรุ่นชี้ผู้ใหญ่อคติ ‘เสียตัววันวาเลนไทน์’
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) รายงานผลการสำรวจวัยรุ่นในกรุงเทพมหานครจำนวน 1,115 คน ระบุว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 62.3 มีความเห็นต่อประเด็นที่ว่า “วันวาเลนไทน์เป็นวันเสียตัวของวัยรุ่น” ว่าเป็นเรื่องไม่จริง และเป็นการมองวัยรุ่นในแง่ลบมากเกินไป ขณะที่อีกร้อยละ 33.8 เห็นว่าเป็นจริงตามที่สังคมมอง พร้อมทั้งระบุสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ปีนี้คือการแสดงออกทางเพศที่ไม่เหมาะสม สำหรับนัการเมืองที่วัยรุ่นอยากมอบกุหลาบวันวาเลนไทน์ให้มากที่สุดคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่วนคู่รักคนดังต้นแบบได้แก่ เคน ธีรเดช และ หน่อย บุษกร

วาเลนไทน์ "รักได้" ต้องมีสติ

วาเลนไทน์ "รักได้" ต้องมีสติ

เมื่อวัยรุ่นเสี่ยงติดเอดส์สูงขึ้น


รู้สึกว่าช่วงนี้ กลิ่นอายของความรักจะฟุ้งกระจายเป็นพิเศษ เพราะนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าใกล้เข้ามาแล้วสำหรับเทศกาลแห่งความรัก!! หรือวันวาเลนไทน์ ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับวันวันนี้เป็นพิเศษ โดยจะพยายามสรรหาสิ่งของต่างๆ ที่แทนความหมายของคำว่า “รัก” มาให้กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาตัวโต หมอนรูปหัวใจ ช็อคโกแลต สร้อยคอ แหวนหรือดอกไม้ช่อโต ซึ่งนั้นก็อาจถือว่าได้ไม่เสียอะไรมากมาย นอกจากเงินทอง แต่ในรายที่ยอม “เสียตัว” ให้กับคนรัก เพื่อเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์แล้วล่ะก็!! นั่นส่งผลให้มีปัญหาตามมาอีกมากมายใหญ่โตถึงระดับประเทศ...

เด็กไทยเป็นอะไรไปใหญ่แล้ว เมื่อเยาวชนถึงร้อยละ 32.4 มองว่าการอยู่ร่วมกันก่อนแต่งเป็นเรื่องปกติ การมีคู่นอนชั่วคราว รวมถึงการสวิงกลิ้ง การขายบริการทางเพศโดยเต็มใจกลับมีจำนวนมากขึ้น ทั้งยังพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตามมาด้วย

จากสถิติของสาธารณสุข พบว่า ในระหว่าง ปี พ.ศ. 2544- 2552 วัยรุ่นมีการตั้งครรภ์ก่อนวัยเพิ่มขึ้นจาก 10% มาเป็น 40% และจากการสำรวจ ในช่วง 7 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2455-2550 พบว่าช่วงอายุมีแนวโน้มลดลงด้วย โดยพบว่าเด็กอายุ 10 ปีมีการตั้งครรภ์สูงถึง 60 คน และเด็กต่ำกว่า 15 ปี คลอดบุตรจำนวน 55,648 คน นี่เป็นเพียงตัวเลขที่สำรวจในโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เป็นเรื่องหนักใจของทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเด็กและตัวเด็กเอง เพราะโดยปกติแล้วเด็กวัยรุ่นในวัย 10 - 20 ปี ยังไม่พร้อมต่อการเป็นพ่อแม่คน ทั้งทางด้านเสถียรภาพทางการเงิน และ ภาวะทางอารมณ์ ตลอดจนการดูแลรับผิดชอบ
ปัญหายังไม่พอแค่นั้น เมื่อยังพบอีกว่าเด็กเยาวชนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน ติดเชื้อเอดส์เพิ่มมากขึ้น โดยพบ 5 ใน 1,000 คน ที่มาบริจาคเลือด มีการติดเชื้อเอชไอวี โดยวัยรุ่นในกรุงเทพฯ ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ติดเชื้อเอชไอวี ถึงร้อยละ 1.6 ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมาก

และที่สำคัญองค์การสหประชาชาติด้านเอดส์ยังสำรวจพบว่าเยาวชนไทยใช้ถุงยาง เพียงร้อยละ 50 และสอบตกเรื่องความรู้การมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย และนี่คือตัวการของปัญหาทั้งหมด เมื่อวัยรุ่นจำนวนมาก ไม่กล้าเอ่ยปาก ขอให้คนรักของตนใช้ถุงยางอนามัย อาจด้วยค่านิยมที่กลัวถูกว่า “เคย” มาแล้ว... หรือแม้แต่การไม่ให้เกียรติอีกฝ่ายเพราะในสังคมไทย คนจำนวนมากเชื่อว่า ถุงยางอนามัยคือความไม่ไว้ใจ รวมถึงการเลือกที่จะกินยาคุมกำเนิด แทนการใส่ถุงยางอนามัย เพราะในกลุ่มวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์มักจะกังวลกับการตั้งท้อง มากกว่าการติดเชื้อโรค เพราะการตั้งท้อง อาจทำให้หมดโอกาสทางการศึกษาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเชื่อแบบผิดๆด้วยกันทั้งสิ้น จึงส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

และอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้เยาวชนไทย “ยอมเสียตัว” มากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจาก “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีเยาวชนนักดื่มหน้าใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า เยาวชนไทยมีแนวโน้มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น ทั้งดื่มประจำและชั่วคราว โดยปี 2539-2550 เยาวชนอายุ 15-19 ปี ดื่มสุราเป็นประจำ เพิ่มสูงขึ้นถึง 70 % และ ล่าสุด เยาวชน 15-24 ปี ดื่มสุราถึง 2.33 ล้านคน เป็นหญิง 0.2 ล้านคน เป็นชาย 2.13 ล้านคน โดยในแต่ละวันมีนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 700 คน/วัน และที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบเยาวชนที่ดื่มแอลกอฮอล์อายุน้อยสุดเพียง 5 ขวบ
ยิ่งในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้ กลุ่มเยาวชนมักมีการจับกลุ่มสังสรรค์ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ความรุนแรง ทะเลาะวิวาท รวมไปถึงง่ายต่อการ “เสียตัว”
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้วันแห่งความรักในปีนี้เป็นวันแห่งการสูญเสีย เราทุกคนต้องร่วมมือกันโดยเฉพาะผู้ปกครอง จำเป็นต้องมีเวลาให้กับเด็ก พูดคุยหากิจกรรมทำร่วมกัน และที่สำคัญ ต้องให้ความรู้ ในเรื่องเพศศึกษากับเด็ก อย่าถือเป็นเรื่องน่าอายและปกปิดไว้ ลูกอาจเรียนรู้ในห้องเรียนมาบ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ใกล้ชิด และเข้าใจลูกมากกว่า จึงทำให้การสอน การพูดคุย ตลอดจนให้คำแนะนำต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ด้วยวิธีง่าย ๆ คือการถามว่าทราบเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์และการป้องกันมากน้อยขนาดไหน เมื่อคุณพ่อคุณแม่เข้าใจและรู้ว่าเด็กมีความเข้าใจขั้นไหนแล้ว ก็ให้เสริมความรู้ต่อจากที่เด็กมี บอกเด็กถึงข้อพึงระวัง การวางตัวกับเพศตรงข้าม รวมถึงฮอร์โมนและความต้องการทางเพศของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องน่าอาย และยากต่อการพูดคุย แต่คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับเด็กในเรื่องนี้โดยพยายามทำให้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ค่อย ๆ พูดทีละเล็กทีละน้อย เพราะจะช่วยได้มากกว่าการอธิบายทุกอย่างในครั้งเดียว อีกทั้งยังทำให้เด็กรู้สึกชิน และไม่กระอักกระอ่วนใจอีกด้วย
ตามมาด้วย ควรสอนการคุมกำเนิด ให้แก่เด็ก ซึ่งปัจจุบันมีมากมายหลายวิธี แต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย และเหมาะสมแตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์ อาจให้เด็กมีโอกาสพูดคุยกับหมอหรือผู้ที่มีความรู้ในเรื่องเพศศึกษา เพื่อที่จะเข้าใจถึงลักษณะที่แตกต่างกันของการคุมกำเนิด ซึ่งการคุมกำเนิดมีหลัก ๆ คือ การคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน เป็นวิธีที่นิยมใช้กัน เพราะสะดวกและมีอยู่มากมายตามท้องตลาด แต่มีข้อห้ามในการใช้สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ โดยต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ซึ่งโดยรวมแล้วการคุมกำเนิดแบบใช้ฮอร์โมนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เอสโตรเจน และโปรเจสโตเจน ซึ่งเป็นแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุด การใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกําเนิด เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ที่ออกฤทธิ์ได้นาน ที่นิยมใช้มากเป็นพวก DMPA และการใช้ยาฝังคุมกําเนิด

การคุมกำเนิดแบบไม่ใช้ฮอร์โมน เช่น การใส่ห่วงคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย และการนับวัน นอกจากนี้แล้วยังมีการคุมกำเนิดแบบการหลั่งภายนอก การใช้น้ำยาฆ่าเชื้ออสุจิ การสวนล้างช่องคลอดอีกด้วย

นอกจากพ่อแม่แล้วนั้น วัยรุ่นเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและค่านิยมผิดๆ ในเรื่องของ “การยอมเสียตัว” เพื่อเป็นของขวัญให้คนรักในวันวาเลนไทน์ เพราะในวันนั้น เราสามารถมอบสิ่งดีๆ มอบความรักที่บริสุทธิ์ให้กับทุกคนได้ ไม่ใช่เพียงแค่คนรักเท่านั้น แต่รวมไปถึงพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อน แต่ที่สำคัญ!! เมื่อมีความรักจำเป็นต้องรักแบบให้เกียรติกัน ช่วยเหลือกัน ทำอะไรก็ต้องไม่ให้ตัวเองและคนอื่นเสียหายหรือเดือดร้อน ต้องตั้งสติ รู้จักคิด เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว...

วัยรุ่นเป็นวัยที่เข้าใจยาก ต้องการอิสรเสรีภาพ และมีโลกส่วนตัวสูง ดังนั้น ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูก การทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่ ตลอดทั้งความรักความเข้าใจกันในครอบครัวจะช่วยวัยรุ่นห่างไกลจากปัญหานี้ได้



เตือนวาเลนไทน์ ยาเสพติดสีชมพูระบาด

ขณะที่วัยรุ่น 73.5% มองมีเซ็กส์ไม่ต้องรอวาเลนไทน์เมื่อไหร่ก็ได้ สนใจเทศกาลตรุษจีนมากกว่า ด้าน "อิสระ" สั่งตรวจเข้มตรวจหอพัก ร้านสะดวกซื้อขายสุรา... เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ปีนี้ ได้มอบหมายให้ศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม พม.รณรงค์ให้วัยรุ่นเข้าใจ และรับทราบถึงภัยของวัยรุ่น การเที่ยวเตร่ ยาเสพติดและความปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาเนื่องจากวัยรุ่นเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการดื่มสุรา โดยเฉพาะบริเวณหอพักแถวมหาวิทยาลัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตรวจพบทำผิดกฎหมายจำนวนไม่น้อย ปล่อยให้ร้านสะดวกซื้อภายในสถานศึกษา จำหน่ายสุรา หรือ แม้แต่ร้ายขายยาก็เปิดจำหน่ายสุราด้วย เพราะขายดีกว่ายา เร็วๆ นี้ จะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สรรพาสามิต อธิการบดีทุกแห่งมาร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติการตรวจจับหอพักที่ทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด จากนั้นตนจะเดินสายตรวจไม่เฉพาะใน กรุงเทพมหานคร (กทม.) แต่รวมถึงต่างจังหวัดด้วย ด้าน นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม พม. กล่าวว่า จากการสำรวจภาพรวมของเด็กและเยาวชนที่มีความเห็นต่อวันวาเลนไทน์ปี นี้ร้อยละ 73.5 ไม่ได้มองเรื่องเพศสัมพันธ์ โดยร้อยละ 40.2 สนใจวันวาเลนไทน์ระดับปานกลาง วันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับเทศกาลตรุษจีน จึงให้ความสำคัญกับเทศกาลตรุษจีนมากกว่า โดยเด็กในกทม.และปริมณฑล ร้อยละ 78.6 ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์วันวาเลนไทน์ แต่มองว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้อยู่ที่ วันวาเลนไทน์ สามารถมีวันไหนก็ได้ ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม พม.กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ปัญหาเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เด็กและเยาวชน มองว่าขึ้นกับการเลี้ยงดูของพ่อแม่ 66.4% ขณะที่มองว่าขึ้นกับแบบอย่างที่ดีจากผู้ใหญ่ 32.3% แนวทางการเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม ศูนย์ฯได้แจ้งเตือนไปยังคณะทำงานเฝ้าระวังฯ ระดับจังหวัดทุกจังหวัดแล้วเพื่อประสานให้สถานศึกษา ท้องถิ่นตรวจตรา กวดขันพฤติกรรมเด็กทั้งเรื่องการดื่มสุรา พฤติกรรมที่อาจไม่เหมาะสม เนื่องจากปีนี้ตรงกับวันหยุดด้วย "ที่น่าห่วง คือ มีแก๊งขายยาเสพติดที่ทำยาเสพติดสีชมพู มาร่วมฉลองวันวาเลนไทน์โฆษณาขาย เด็กเยาวชนดังนั้นต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่เคยมีปัญหาในปีก่อนๆ ทั้งสถานศึกษาสวนสาธารณะ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเน้นให้สภาเด็กและเยาวชน มีบทบาทร่วมกับท้องถิ่นตำรวจแจ้งเตือน พ่อแม่ผู้ปกครองเนื่องจากพบว่าเด็กนิยมใช้บ้านเพื่อนที่ผู้ปกครองไม่อยู่มา มั่วสุมขอให้พ่อแม่สอดส่องดูแลพาลูกไปทำกิจกรรมสร้างสรรค์ในครอบครัวด้วย" นายธานินทร์ กล่าว




?เซ็กซ์สังเวยวาเลนไทน์? ครองแชมป์ปัญหาน่าห่วง

?เซ็กซ์สังเวยวาเลนไทน์? ครองแชมป์ปัญหาน่าห่วง


รศ.ดร. สรชัย พิศาลบุตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก และเครือข่ายพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก สำรวจความเห็นของเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10 - 25 ปี จำนวน 792 คน และผู้ปกครองจำนวน 651 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ และกิจกรรมที่คาดว่าจะทำในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยพบว่า กิจกรรมที่เด็กและเยาวชนในเขตกรุงเทพฯ คาดว่าจะทำในวันวาเลนไทน์มากที่สุดถึงร้อยละ 70 คือ การจะส่งการ์ดวาเลนไทน์ ดอกกุหลาบแดง ของขวัญ ช็อกโกแลต โดยส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 34 ส่งไปให้คนรัก ตามด้วยร้อยละ 32 ส่งไปให้เพื่อน และร้อยละ 26 ส่งไปให้บิดามารดา รศ.ดร.สมชัย กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่เด็ก เยาวชน และผู้ปกครองกังวลมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ อันดับ 1 คือการมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 76 ตามด้วยการไปเที่ยวและทำในสิ่งไม่ดี ร้อยละ 9 และปัญหาการตั้งครรภ์ ร้อยละ 4 โดยเด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับสูงกว่ามัธยมศึกษากังวลใจเกี่ยวกับปัญหาที่จะเกิดกับเด็กและเยาวชนมากกว่าเด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา สำหรับผู้ปกครองที่มีการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปมีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาที่จะเกิดกับเด็กและเยาวชนในวันวาเลนไทน์มากกว่าผู้ปกครองที่มีการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาลงมา ด้าน น.ส.เข็มพร วิรุฬราพันธ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) กล่าวว่า จากที่ได้สอบถามถึงกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เด็กและเยาวชนควรทำในวันวาเลนไทน์มากที่สุด อันดับ 1 คือ ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว ร้อยละ 37 รองลงมาคือการชวนคนที่เรารักทำความดี ร้อยละ 23 ชวนคนที่เรารักทำกิจกรรมดีๆ ร้อยละ 20 และบอกรักหรือแสดงความรักต่อกัน สำหรับสถานที่สร้างสรรค์ที่เด็กและเยาวชนอยากชวนกันไปในวันวาเลนไทน์มากที่สุด คือ แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ร้อยละ 18 รองลงมา คือ สวนสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 17 โรงภาพยนตร์ ร้อยละ 13 ร้านอาหาร ร้อยละ 10 พิพิธภัณฑ์ ร้อยละ 7 และศาสนสถาน ร้อยละ 7 แสดงให้เห็นว่า หากมีกิจกรรมและสถานที่สร้างสรรค์ที่เป็นทางเลือกที่ดี จะมีเด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่สนใจกิจกรรมเชิงบวก “การที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศวาระแห่งชาติเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่องพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก เมื่อวันเด็กแห่งชาติ 10 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดให้มีกิจกรรมและพื้นที่ที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีกิจกรรมและสถานที่ดีๆ รองรับในช่วงเทศกาล รวมถึงการสนับสนุนห้องเรียนพ่อแม่ เพื่อเป็นแหล่งให้คำปรึกษากับผู้ปกครองในการดูแลบุตรอย่างเข้าใจ” น.ส.เข็มพร กล่าว

โพลวาเลนไทน์ชี้ปัญหาศก.-การเมือง ทำโจ๋เซ็กซ์หด"
โดย เจมิไน วันที่ 05 ก.พ. 2009, 21:23
สวนดุสิต โพล ชี้ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ทำความต้องการทางพศวันวาเลนไทน์วัยโจ๋ลดลง เผยเด็กไทยดูหนังลามกตั้งแต่ก่อน 10 ขวบ มีเซ็กซ์ครั้งแรก 10 ขวบ "มาร์ค" แซง "แม้ว" เป็นบุคคลที่วัยรุ่นต้องการซื้อดอกไม้มากที่สุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวในงานแถลงข่าว “รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้ ด้วยตัวคุณเอง (White Valentine … design your love) เนื่องในวันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ว่า สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นเยาวชนไทยอายุระหว่าง 15-24 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่าง 17-31 มกราคม 2552เกี่ยวกับกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ เนื่องในวันวาเลนไทน์ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,008 คน เป็นชาย 422 คน หญิง 579 คน และเพศที่สาม 7 คน พบว่า สิ่งที่ต้องการทำมากที่สุด ร้อยละ 26 บอกว่าซื้อของให้คนรัก ร้อยละ 13 ซื้อดอกกุหลาบให้ ร้อยละ 10 กินอาหารด้วยกัน และร้อยละ 5 ต้องการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งถือว่าลดลงกว่าปีที่ผ่านมาที่วัยรุ่นต้องการมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไท น์ ร้อยละ 12 ซึ่งปัจจัยอาจเนื่องมาจากความวุ่นวายทางการเมืองและภาวะทางเศรษฐกิจทำให้ อารมณ์ความรู้สึกรักใคร่ โรแมนติกลดลง รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า คนที่อยากให้ดอกไม้มากที่สุด คือ คนรัก/แฟน ร้อยละ 46 พ่อแม่ ร้อยละ 26 เพื่อน ร้อยละ14 ดาราร้อยละ 4 และนักการเมืองร้อยละ 2.82 ในส่วนของนักการเมืองบุคคลที่วัยรุ่นต้องการมอบดอกไม้ให้มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 3.นายชวน หลีกภัย 4.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ 5.บารัค โอบามา โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ พบว่า มีอันดับที่สูงขึ้นจากเดิมอยู่ลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นผลมาจากบุคลิกภาพส่วนตัว รูปร่างหน้าตา และภาวะความเป็นผู้นำ รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า เมื่อถามถึงเว็บไซต์โป๊ ร้อยละ 34 ตอบว่าเคยดู ส่วนใหญ่ดูครั้งแรกเมื่ออายุ 10-19 ปี และมีร้อยละ 3 ที่เคยดูตอนอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยร้อยละ 48 บอกว่ารู้สึกตื่นเต้น เกิดอารมณ์/ความต้องการทางเพศขณะดู และร้อยละ 31 บอกว่าสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหรือมีเพศสัมพันธ์ระหว่างดู ร้อยละ 5 รังเกียจ ร้อยละ 4 อาย และ ร้อยละ 2 รู้สึกตลก โดยกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 38 ตอบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 37 ในรอบปีที่ผ่านมา ร้อยละ 31 เคยติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเมื่อสงสัยว่าอาจมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 62 จะไปโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือคลินิก และมีร้อยละ 6 ที่ตอบว่าซื้อยากินเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาตามมาได้พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกมากที่สุดร้อยละ 37 อายุ 15-16 ปี ร้อยละ 3.19 อายุ 11-12 มีร้อยละ 1.86 อายุ 10 โดยบุคคลที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยร้อยละ 85 เป็นคนรัก/แฟนร้อยละ 6 เพื่อน แฟนเก่าร้อยละ 4 และหญิงขายบริการร้อยละ 1 มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งกับคู่นอนที่ไม่ประจำ ร้อยละ 53”รศ.ดร.สุขุม กล่าวนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ. ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยรณรงค์ให้เยาวชนไทยตระหนักถึงอันตรายใกล้ตัว และส่งเสริมค่านิยมเกี่ยวกับความรักที่เหมาะสม รักตัวเอง พ่อแม่ ครอบครัวให้มากๆ และรู้จักป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคเอดส์ เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากเรียนรู้ ชอบค้นหาและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มักจะให้ความสำคัญและทุ่มเทสรรหาสิ่งที่คิดว่าเป็นตัวแทนแสดงถึงความรักให้ กับคนรักเป็นพิเศษ“สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากคือ การแสดงออกถึงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งการตั้งครรภ์โดยยังไม่พร้อม และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลชี้ชัดให้เห็นว่าสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง ขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมถุงยางป้องกันทุกครั้ง” นายวิทยากล่าวนายวิทยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่ผลสำรวจระบุว่า กิจกรรมที่วันรุ่นอยากทำให้วันวาเลนไทน์มากที่สุด คือ การซื้อของขวัญ หรือให้ดอกไม้กับคนรัก เพราะมนุษย์โลกต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรัก โลกจะสงบสุขขึ้น แต่ถ้ามนุษย์โลกยังมีแต่ความขัดแย้งโลกก็จะไม่น่าอยู่ ส่วนผลสำรวจระบุว่า นักการเมืองที่วัยรุ่นอยากมอบดอกไม้ให้มากที่สุดคือ นายอภิสิทธ์นั้น ในฐานะประชาชนก็รู้สึกยินดีที่หัวหน้าคณะรัฐบาลได้เป็นนักการเมืองที่กลุ่ม วัยรุ่น ชื่นชอบมากที่สุดนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค พบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ป่วยมากที่สุด คือ โรคหนองใน รองลงมาคือ หนองในเทียม ซิฟิลิส กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง และแผลริมอ่อน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-24 ปี ทั้งนี้ โรคหนองในเป็นตัวบ่งชี้การแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ ที่นำไปสู่การระบาดของโรคเอดส์ ซึ่งมีรายงานว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษามีแนวโน้มป่วยด้วยโรคหนองในเพิ่มขึ้น โดยในปี 2545 มีผู้ป่วย 3.03 ต่อแสนประชากร เพิ่มเป็น 4.61 ต่อแสนประชากร ในปี 2549 สอดคล้องกับข้อมูลร้านขายยา ย่านพัฒนพงษ์ และสุขุมวิท ปี 2548 ที่มีผู้มาซื้อยารักษาโรคหนองใน ร้อยละ 27 ของผู้มาซื้อยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมดนพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์โรคเอดส์ของไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคม มีรายงานผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 345,196 ราย เสียชีวิตแล้ว 93,034 ราย สาเหตุเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด ร้อยละ 84 รองลงมาคือ การใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ร้อยละ 4.6 ติดเชื้อจากมารดา ร้อยละ 3.8 และจากการรับเลือด ร้อยละ 0.02 ซึ่งแนวโมของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าในอดีต เนื่องจากการเข้าถึงยาต้านไวรัส ทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า ในปี 2552 ไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอดส์สะสมประมาณ 1,127,168 ราย เสียชีวิต 613,510 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,753 รายทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ “รักบริสุทธิ์และปลอดภัย...ออกแบบได้ ด้วยตัวคุณเอง” ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.00 น.-19.00 น. ที่อาคารสายสุทธานภดล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการแสดงดนตรี การประกวดออกแบบโปสตอร์ ประดิษฐ์สิ่งของจากถุงยาง เป็นต้น


สวนดุสิต ถก ปัญหาเพศ -" วาเลนไทน์ " สื่อมีส่วนหรือไม่-นิมนต์พระมาเทศน์แก้ไขปัญหาวัยรุ่น
เมื่อเร็วๆ นี้ที่ห้องประชุมชั้น 201 อาคาร ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต(มสด.) จัดงานสัมมนา เรื่อง " วาเลนไทน์ เพศสัมพันธ์ก่อนวัย ..สื่อมีส่วนหรือไม่" โดยมี รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา มรภ.สวนดุสิต และได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต คุณกลศ อัทธเสรี ดารานักแสดง รวมทั้งสื่อมวลชน และนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่ารู้สึกภูมิใจที่นักศึกษามีความคิดในการทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์กับวัยรุ่นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเขาจะเข้าใจกันดีรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยสังคมในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งเป็นการทำงานเพื่อหาประสบการณ์ในด้านการเรียนทางด้านสื่อสารมวลชน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องวัยรุ่นมักจะเกิดข้อโต้แย้งว่าใครมีส่วนที่ทำให้เรื่องต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งมีการโยนภาระกันมากขึ้นสื่อก็เป็นเหมือนดาบสองคม ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคน ว่าจะมีสติในการรับสื่อแค่ไหน ในโลกใบนี้ทุกอย่างคือสื่อ แล้วสื่อแบบไหนล่ะ ที่เป็นประโยชน์เราก็ต้องคิด รวมทั้งครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝัง การรักที่มีเหตุผลคือการรักแบบการให้อภัยกัน เรื่องของความรักเป็นเรื่องที่สวยงามบุคคลสองคนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ถ้าทุกคนมีความรักและรู้จักการรักให้เป็น คนที่มีรักคือคนที่เข้าใจและเห็นคุณค่า แต่ที่สำคัญการรักพ่อแม่ และรักประเทศชาติ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะถือว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์
ด้านพระมหาสมปอง ตาลปุตโต กล่าวถึง การสนทนาธรรมในหัวข้อ วาเลนไทน์ เพศสัมพันธ์ก่อนวัย สื่อมีส่วนหรือไม่ ว่าสื่อทุกสื่อมีโทษและคุณ ต้องมองทุกอย่างให้เป็นกลาง แต่สื่อที่อันตรายและเด็กวัยรุ่นสมัยนี้รับได้เร็ว คือ สื่อทางโทรศัพท์ เพราะเด็กตั้งแต่อายุ 10 ขวบขึ้นไปมีแทบทุกคน ด้วยความทันสมัยและสิ่งที่กระตุ้นได้ง่ายขึ้น อย่างการส่งคลิปวิดีโอ เด็กสมัยนี้เข้าใจหรือยังว่าความรักคืออะไร อาตมาอยากเตือนเยาวชนทุกคน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงว่าอย่าไปเชื่อการที่เสียตัวเป็นการแสดงความรักให้แก่กัน เป็นความเชื่อที่ผิด เวลาที่แฟนขอเรื่องแบบนั้น ให้ผู้หญิงตอบทันทีเลย "ไม่ให้ ไม่ใช่ ไม่รัก แต่ยังไม่ถึงเวลา" แค่นี้ผู้ชายจะเห็นค่าของตัวผู้หญิงเอง เรามีการแสดงความรักที่ดีได้ เช่น รักตัวเอง รักเรียน รักครอบครัว รักพ่อแม่ ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด



ที่มา http://news.hunsa.com/detail.php?id=14977
http://www.never-age.com/wb/viewtopic.php?t=196
http://adviser.eduzones.com/ditsapol/2776

นกเงือกและ10 ปัญหา วาเลนไทน์

นกเงือกและ10 ปัญหา วาเลนไทน์
นกเงือก…อีกชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพแห่งประเทศไทย(BRT)ซึ่งนำเสนอภาพ เทศกาลวันแห่งความรักที่จะมาถึง ด้วยเหตุผลที่ว่า หากให้นึกถึงสัตว์ที่เป็นตัวแทนของความรัก ความผูกพัน ขอให้นึกถึง … นกเงือก สัญลักษณ์ของ ครอบครัว หรือ ชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบ อาจด้วยวิถีชีวิตและพฤติกรรมการใช้ชีวิตคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของนกเงือกทั้งความเป็นหัวหน้าของคอบครัวและเป็นสัตว์ ผัวเดียวเมียเดียว
ชีวิตรักของนกเงือกที่เริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์นั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคมโดยตัวผู้จะออกเสาะหาตัวเมีย เมื่อพบก็จะทำการเกี้ยวพาราสีและพยายามหลอกล่อตัวเมียเข้าไปชมโพรงรังบนต้นไม้หรือเรือนหอซึ่งมักจะเป็นโพรงรังเก่า หรืออาจจะช่วยกันเสาะหาโพรงรังใหม่ หากฝ่ายเจ้าสาวยอมรับเรือนหอของตัวผู้ก็เท่ากับเป็นการเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและยาวนาน

ชีวิตคู่ของนกเงือกในช่วงจีบกันเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจมากบางชนิดก็แสดงความรักด้วยการใช้ปากถูกัน หรือแคะเปลือกไม้ หักกิ่งไม้แก้เขินตัวผู้บางตัวก็อาจจะออกไปหาอาหารมาป้อนให้นกเงือกตัวเมียเพื่อสานความสัมพันธ์เป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจยิ่งสำหรับสัตว์ชนิดนี้


คำกล่าวของ ศ.ดร. พิไล พูลสวัสดิ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ทำการวิจัยเรื่อง ศักยภาพของนกหัวขวานในการก่อให้เกิดโพรงรังแก่นกเงือกในทุนโครงการBRT. ซึ่งนอกจากจะพบความสัมพันธ์ระหว่างนกหัวขวานตัวก่อให้เกิดโพรงรังของนกเงือกกรามช้างปากเรียบแล้วยังค้นพบความสัมพันธ์แห่งชีวิตคู่ที่น่าจดจำ

หลังจากได้โพรงไม้ที่พอใจ คู่นกเงือกจะช่วยกันทำความสะอาดเก็บเศษอาหารภายในรังทิ้ง และค่อยๆเริ่มใช้ปากกะเทาะดินเพื่อปิดปากโพรงรัง เก็บเศษอาหารทิ้งและกะเทาะดินที่ปิดปากโพรงออกและจะเริ่มช่วยกันปิดปากโพรงจากนั้นเมื่อตัวผู้ได้โอกาสก็จะเริ่มทำการผสมพันธุ์โดยการขึ้นทับตัวเมียทำการผสมพันธุ์วันละหลายครั้ง หรือ สองสามวันครั้ง เมื่อตัวเมียท้อง จะทำการขังตัวเองอยู่ในโพรงไม้และขะมักเขม้นอยู่กับการปิดปากโพรงโดยนกเงือกตัวเมียจะนำเศษไม้และดินโคลนที่นกเงือกตัวผู้หาให้มาผสมกับอาหารเหนียว ๆ ที่ได้จากการสำรอกออกมาเพื่อแปะโพรงไม้ให้มีขนาดเล็กลงจนเหลือรูกว้างเพียงพอที่จะให้พ่อนกป้อนอาหารเข้าไปเท่านั้น

นับเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการป้องกันลูกนกและแม่นกจากผู้ล่าที่จะคอยมาทำร้ายในช่วงฤดูการวางไข่

หน้าที่สำคัญของผู้เป็นพ่อนกก็คือความรับผิดชอบในการหาอาหารมาป้อนให้กับแม่นกและลูกนกให้เพียงพอในแต่ละวัน พร้อมทั้งคอยป้องกันอันตราย และรอคอยเฝ้าดูฟูมฟักลูกนกตัวน้อยๆ ของมันอย่างซื่อสัตย์และจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเช่นนี้จนกว่าตัวใดตัวหนึ่งตายจากไปเสียก่อนตัวที่เหลือจะครองตัวเป็นโสดอยู่สักระยะหนึ่งก่อนจะจับคู่ใหม่ ที่สำคัญเมื่อใดที่นกเงือกตัวผู้ต้องถูกทำร้าย ไม่ว่าจะด้วยผู้ล่าจากธรรมชาติอย่างหมาไม้หรือหมีขอหรือมนุษย์ในขณะที่ออกไปหาอาหารอีก 2 ชีวิตที่รอคอยในโพรงไม้ก็มีอันต้องดับสลายไปเช่นกันหากนกเงือกตัวเมียอยู่ในช่วงสลัดขนไม่สามารถที่จะออกไปหาอาหารได้

สำหรับบทบาทของนกเงือกต่อระบบนิเวศนับว่ายิ่งมีความสำคัญเพราะนกเงือก คือ ฟันเฟืองสำคัญในการสร้างผืนป่าด้วยการทำหน้าที่กระจายเมล็ดพันธุ์ไม้จากการสำรอกเมล็ดพืชและผลไม้ที่กินเป็นอาหารออกมาเป็นระยะ ๆ ขณะบินอยู่กลางอากาศช่วยให้เกิดความหลากหลายของพันธุ์ไม้ในผืนป่าและช่วยสร้างระบบนิเวศป่าที่ซับซ้อนขึ้น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่คอยรักษาสมดุลของสัตว์ขนาดเล็กในผืนป่าด้วยการจับสัตว์จำพวกแมลง หนู หรืองู เป็นอาหาร ภาพของนกเงือก จึงไม่เป็นเพียงผู้สร้างผืนป่าเท่านั้นแต่ยังอาจเป็นภาพสะท้อนของความรักความผูกพันในครอบครัวที่อาจเลือนหายไปบ้างในสังคมมนุษย์ยุคนี้
ขณะ ทางด้าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เตือน 10 ความเสี่ยง เซ็กส์วัยรุ่นไทยให้มองวันวาเลนไทน์เป็น วันรักบริสุทธิ์ ไม่ใช่ วันคร่าความบริสุทธิ์และระบุถึง 10 ปัญหา หากวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อาทิ จับผ้าอ้อมก่อนใบปริญญา ซึมเศร้าเหงาลึก เรียนตก ชื่อเสีย ถูกหลอกซ้ำซาก ทำลายอนาคตชีวิตคู่ เจอคนดีอาจแห้ว แนะวัยรุ่นไทยควรเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ให้มากขึ้น
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้จัดการเครือข่ายการศึกษาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยว่าปัจจุบันวัยรุ่นตั้งแต่ระดับมัธยมขึ้นไปเริ่มยอมรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้นซึ่งเป็นไปตามยุคสมัยและเป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ปัจเจกบุคคลเริ่มเรียกร้องสิทธิเสรีภาพที่จะสนองความต้องการของตนโดยไม่ยอมถูกผูกมัดอยู่ภายใต้กรอบหรือจารีตของสังคมแบบเก่าประกอบกับแรงยั่วยุของสื่อที่ทำให้วัยรุ่นต้องการปลดปล่อยแรงกดดันทางเพศมากขึ้นซึ่งแนวโน้มพฤติกรรมของวัยรุ่นนั้นจึงเป็นสิ่งที่เข้าใจได้และอยากเห็นผู้ใหญ่สมัยนี้พยายามเข้าใจเด็กวัยรุ่นภายใต้บริบทของโลกและสังคมที่เปลี่ยนไปไม่ใช่เอาแต่ห้ามหรือวางกรอบให้เด็กเดินตามซึ่งเท่ากับจะยิ่งเป็นการสะสมแรงกดดันให้เด็กยิ่งมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนมากขึ้นอีก
อยากขอร้องให้วัยรุ่นฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของผู้ใหญ่ให้มากขึ้นเพราะผู้ใหญ่เหล่านี้ต่างหวังดีและห่วงใยบุตรหลานทั้งสิ้นที่สำคัญผู้ใหญ่จะมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า..ดร.อมรวิชช์ กล่าวต่อว่าการที่วัยรุ่นมองว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมดาและนิยมมีเพศสัมพันธ์กันในวันวาเลนไทน์
อยากเตือนว่าหากวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรแล้วจะมีภัยและผลกระทบตามมาถึง10 ประการที่วัยรุ่นจะได้รับจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรคือ

1.ท้อง แท้ง หรือจับผ้าอ้อมก่อนใบปริญญา ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันจะเห็นว่าการทำแท้งของวัยรุ่นทั้งที่ไปใช้บริการคลินิกและที่กินยาเองมีสูงถึงกว่าปีละแสนราย ซึ่งการตั้งท้องและทำแท้งยังนำมาซึ่งชีวิตการเรียนที่พังพินาศ
รวมถึงบางรายที่มิได้ทำแท้งก็ต้องเริ่มชีวิตการเป็นแม่ตั้งแต่วัยรุ่นขาดความพร้อมและนำมาซึ่งปัญหาทั้งแม่และเด็ก ส่วนวัยรุ่นที่คิดว่าจะไม่มีการตั้งท้องเพราะอุปกรณ์คุมกำเนิดนั้น จากงานวิจัยพบว่าแม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยก็ยังมีโอกาสพลาดได้สูงถึง 20เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ใน 5 ครั้งที่มีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยก็ยังมีโอกาสพลาดและตั้งท้องได้เนื่องจากคุณภาพของถุงยางเสื่อมหรือมีวิธีการใช้ที่ไม่ถูกต้องและการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดก็มีโอกาสพลาดได้สูงถึง 5 เปอร์เซ็นต์
2. ซึมเศร้า เหงาลึก จากการเปลี่ยนคู่บ่อย ๆ ซึ่งจากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกา พบว่า วัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์เสรีเปลี่ยนคู่นอนบ่อยโดยเฉพาะฝ่ายหญิง ซึ่งในส่วนลึกยังต้องการความผูกพันมากกว่าเพศชาย ฝ่ายหญิงที่มักเป็นฝ่ายถูกทิ้งจึงอยู่ในภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เสรีหลายเท่าและที่สำคัญจากสถิติพบว่าวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์เสรีมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เสรี
3. ติดโรค อวัยวะเพศเน่า มีงานวิจัยทางการแพทย์ชี้ชัดว่าแม้จะมีการใช้ถุงยาอนามัยก็ยังไม่สามารถปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศต่าง ๆ เช่น โรคผิวหนังบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ รวมถึงโรคอื่นๆเช่นโรคหนองในที่ในหลายประเทศพบว่า กลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-29 ปีเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อกามโรคมากที่สุด
4.เรียนตก งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่าผลของการมีเซ็กส์ในวัยรุ่นสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเรียนและผลการเรียนที่ตกต่ำลงด้วย
5.ชื่อเสียการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นมักตกเป็นขี้ปาก ถูกพูดต่อๆกันไปในกลุ่มเพื่อทั้งหญิงชายและนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่เลวร้าย เช่น ผู้หญิงถูกพูดถึงว่า ถูกฟันแล้ว ผู้ชายถูกพูดถึงว่าเป็น นักล่าพรหมจรรย์
6.หมิ่นหญิง หยามชาย การที่วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เสรีมากขึ้นทำให้การมองเห็นคุณค่าตนเองและผู้อื่นเปลี่ยนไปการติดเซ็กส์ทำให้วัยรุ่นไม่อาจยกระดับการมองคุณค่าความเป็นหญิงความเป็นชายได้มากไปกว่าการสนองความใคร่ซึ่งกันและกัน
7.ถูกหลอกซ้ำซาก วัยรุ่นหญิงจะพบว่าตนเองถูกหลอกให้รักหรือหลงเพื่อแลกกับเซ็กส์อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเด็กวัยรุ่นชายเองก็อาจถูกหลอกโดยเพื่อนชายและเพื่อนหญิงโดยใช้เซ็กส์เป็นสื่อเพื่อให้ได้ สิ่งของหรืออื่น ๆ ที่วัยรุ่นต้องการ
8.ใช้เซ็กส์เลี้ยงรัก วัยรุ่นจะเริ่มคุ้นเคยกับการมีเพศสัมพันธ์ตามความต้องการหรือความใคร่มากกว่าความรู้สึกรัก
ซึ่งท้ายที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นจะมีแต่ความไม่แน่นอนและไม่ยั่งยืน
9. เจอคนดีจริงก็อาจแห้ว โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่รู้สึกว่าตนเองมีเบื้องหลังที่ไม่ดีอาจปฏิเสธตนเองหรือปิดบังอดีตตนเองไม่ได้ก็อาจถูกปฏิเสธ ส่วนฝ่ายชายเองเมื่อพบผู้หญิงดี ๆ ก็อาจเสี่ยงถูกปฏิเสธจากผู้หญิงดี ๆ เช่นกันเพราะถือว่าผู้ชายโชกโชนเกินจะรับได้
10. ทำลายอนาคตชีวิตคู่ อันเนื่องมาจากความทรงจำที่เลวร้ายในช่วงวัยรุ่นของกันและกันทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในการไม่เคารพซึ่งกันและกันหรืออาจทำลายชีวิตคู่อันเนื่องมาจากภาวะเจ็บป่วยจากกามโรคหรือการทำแท้งที่ทำลายภาวะเจริญพันธุ์ของตนเอง

ดร.อมรวิชช์ กล่าวอีกว่าวัยรุ่นที่มองเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เป็นเพียงเรื่องฉาบฉวยธรรมดานั้น อยากให้คิดทบทวนให้ดีโดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่จะมีผลกระทบสูงเพราะเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วฝ่ายหญิงจะมีปัญหาซึมลึกกว่าฝ่ายชายมากนักและอยากให้มองวันวาเลนไทน์เป็น วันรักบริสุทธิ์ ไม่ใช่ วันคร่าความบริสุทธิ์ จะดีกว่า
ที่สำคัญวัยรุ่นต้องรู้จักปฏิเสธแรงยั่วยุทางเพศให้ดีกว่านี้โดยมองเหตุผลต่าง ๆ ข้างต้นไม่ใช่ปล่อยตัวตามกระแสหรือกลุ่มเพื่อนเพียงอย่างเดียว


วธ.-ศธ.สกัดปัญหาวาเลนไทน์ จี้ตำรวจกวดขันโรงแรมม่านรูด
โดย มติชน
วัน อังคาร ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 12:01 น.
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเทศกาลวันวาเลนไทน์ว่า ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีของไทย แต่เด็กและเยาวชนไทยรับเอาวัฒนธรรมเหล่านี้เข้ามา และไปตีความหมายของวันวาเลนไทน์ผิดๆ แสดงพฤติกรรมที่ผิด โดยเฉพาะเรื่องทางเพศ ทั้งที่จริงๆ แล้ววันดังกล่าวควรเป็นวันแสดงความรักต่อพ่อ แม่ พี่น้อง ผู้มีพระคุณ หรือคนที่เราเคารพรัก โดยอาจมอบของขวัญให้ แทนที่วัยรุ่นจะพากันไปเที่ยวแล้วมีเพศสัมพันธ์กันก่อนวัยอันควร จึงอยากให้สังคมช่วยกันรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนไทยเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ตนขอฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กวดขันดูแลตามโรงแรมม่านรูดต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กวัยรุ่นเข้าไปใช้บริการในวันวาเลนไทน์ ถ้าพบโรงแรมใดไม่เข้มงวดปล่อยให้เด็กเข้าไปใช้บริการ ก็ควรจะสั่งปิดกิจการไปเลย
นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา วธ. กล่าวว่า จริงๆ แล้วในวันวาเลนไทน์นี้ วัยรุ่นไทยอาจจะพากันไปทำกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์ เช่น พากันไปทำบุญ ไหว้พระ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ดีกว่าพากันไปเสียตัวในวันนี้ ซึ่งไม่ถูกต้อง
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำชับไปยังสถานศึกษาในสังกัดให้ดูแลนักเรียน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเพศสัมพันธ์ในช่วงวันวาเลนไทน์ เพราะบางโรงเรียนอาจจัดงานวันวาเลนไทน์ แล้วนักเรียนอาศัยจังหวะนี้โกหกผู้ปกครองเพื่อออกไปเที่ยวกันเอง จนอาจเกิดปัญหามีเพศสัมพันธ์ขึ้นได้ ดังนั้น สพฐ.จึงได้เน้นย้ำให้โรงเรียนที่จัดงานได้จัดกิจกรรมที่ไม่เน้นความบันเทิง แต่ให้มุ่งสาระความรู้เกี่ยวกับความรักและการมอบความรักแก่คนรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ มากกว่าการมอบความรักแบบหนุ่มสาว นอกจากนี้ อยากให้โรงเรียนกำชับเรื่องการใช้จ่ายเงินไม่สิ้นเปลือง เพราะเด็กจะมุ่งซื้อดอกกุหลาบ ตุ๊กตา ซึ่งจะสิ้นเปลืองเงินทองมาก



ที่มา http://www.thaingo.org/cgi-bin/content/content2/show.pl?0174
http://news.sanook.com/education/education_247513.php

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เตือนภัยวาเลนไทน์

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ... http://glitter.kapook.com/content.php?lang=th&id=13784&category_id=25

เตือนภัยวาเลนไทน์ 11-18 ปี ถูกลวงมากสุด ชี้ฟันหญิงระวังเอดส์ (คมชัดลึก) เตือนภัยวาเลนไทน์! หญิงสาววัย11-18 ปีถูกล่อลวงมากสุดปี 51 พุ่งถึง19 ราย ชาย 3 ราย เหตุคุยกับคนแปลกหน้าผ่านเน็ต msn- hi5 สุดท้ายถูกพาไปข่มขืน ด้านเจ๊เบียบ สอนเสือผู้หญิงฟันง่าย ระวังได้ของแถม คือ โรคเอดส์ ระบุ ปี 52 ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่กว่า 1 หมื่นคน ชี้นักเรียนนักศึกษาเริ่มขายตัวอายุเฉลี่ย 16 ปี ขณะที่เยาวชน 69 % ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง เมื่อวันที่11 กุมภาพันธ์ นางสาว ธิติมา หมีปาน หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนคนหายระหว่างวันวาเลนไทน์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมาพบว่า มีเด็กและเยาวชนอายุ 11-18 ปี หายออกจากบ้านจำนวน 22 รายเป็น หญิง 19 ราย ชาย 3 ราย ทั้งนี้ในวันวาเลนไทน์ของทุกปี จะมีเด็กจำนวนหนึ่งหายตัวออกจากบ้าน ปลายทางพบว่าเด็กผู้หญิงเกือบทุกราย ถูกล่อลวงไปกระทำชำเราทางเพศ โดยการชักจูงจากชายแปลกหน้า ที่รู้จักและติดต่อแลกเบอร์โทรศัพท์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ใช้โปรแกรมเอ็มเอสเอ็น ไฮไฟว์ และการเล่นเกมออนไลน์ และนัดให้ไปพบตามห้างสรรพสินค้า ชักชวนพูดคุยเพื่อทำความรู้จักแบบตีสนิทด้วยการชวนกินข้าว ดูหนัง สุดท้ายก็พาไปกระทำชำเราห้องพักของฝ่ายชาย เพื่อเตรียมรับมือวันวาเลนไทน์ ผู้ปกครองควรตรวจสอบพฤติกรรมของบุตรหลานว่า มีพฤติกรรมนัดหมายกับเพื่อนๆ ที่ผู้ปกครองไม่รู้จักมาก่อน หรือเตรียมการไปค้างที่บ้านของเพื่อน ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ที่ผิดไปจากเดิม เช่น เริ่มพูดชื่อเพื่อนที่ไม่ใช่คนในกลุ่ม หรือใช้เวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานผิดปกติ ทั้งๆ ที่ไม่มีรายงานต้องทำ ขอกลับบ้านดึกเพื่อทำกิจกรรมที่โรงเรียน หรือไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อน เพราะบางครั้งเด็กอาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวไปพบเจอกับบุคคลแปลกหน้า ในส่วนของตัวเด็กเอง เมื่อเล่นอินเทอร์เน็ต ไม่ควรเปิดเผยชื่อและข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ รูปภาพ เบอร์โทร โรงเรียน ไม่ควรนัดพบกับคนแปลกหน้าที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต เพราะไม่อาจรู้จักตัวตนที่แท้จริง หลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่อันตราย เพราะอาจส่งผลต่อการถูกล่อลวงไปมีเพศสัมพันธ์ คือ ห้องพักรายวันตามด้วยอพาร์ตเมนต์, บ้านของฝ่ายชาย, โรงแรมม่านรูด เป็นต้น นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวว่า อยากจะเตือนผู้ชายว่า ควรระวังผู้หญิงสมัยนี้ด้วย เพราะเขาก็นิยมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคนเหมือนกัน อาจจะเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์หรือโรคเอดส์ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่าในเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้ จะขอให้ตำรวจช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเยาวชน เช่น การเข้าม่านรูด แต่เป็นไปในลักษณะป้องปรามเพราะต้องระวังไม่ให้ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น วันเดียวกันที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวเรื่องเอดส์พุ่ง! เยาวชนรวมพลังสังคมป้องกันเอดส์ว่าในปี 2552 มีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ประมาณ1,127,168 ราย เป็นผู้ใหญ่ที่เสียชีวิตแล้วประมาณ 613,510 ราย เป็นผู้ใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ
516,632 ราย และคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่อีกประมาณ 11,753 ราย ส่วนใหญ่เป็นสตรีที่ติดเชื้อจากสามีหรือคู่รัก รอลงมาคือชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ชายที่ติดเชื้อจากหญิงบริการ ชายที่ติดเชื้อจากภรรยาหรือคนรัก ผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย และหญิงบริการทางเพศติดเชื้อจากลูกค้า นายมีชัย วีระไวทยะ ประธานคณะอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ กล่าวว่า จากการศึกษาในปี 2551 ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า อายุเฉลี่ยเมื่อเข้าสู่การขายบริการคือ 16 ปีและ 44 % ของกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนนักศึกษา นอกจากนี้ เยาวชนเป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2550 พบว่า 32 % ของผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นเยาวชน เพราะการไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีเพียง 1 ใน 5 ที่ใช้ถุงยางอนามัย การแก้ปัญหาในเรื่องนี้รัฐควรสนับสนุนให้มีการวางถุงยางอนามัยในปั๊มน้ำมันและโรงแรม เช่นเดียวกับการวางสุราไว้ให้บริการแขกที่เข้าพัก จะทำให้ประชาชนเข้าถึงถุงยางอนามัยมากขึ้น ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้มาก นายกิตติพันธ์ กันจินะ ประธานคณะทำงานเยาวชนป้องกันเอดส์ กล่าวว่า จากการสำรวจของเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2551 ในกลุ่มเยาวชน 2 พันคนจากกว่า 20 จังหวัดทุกภูมิภาคของประเทศไทยพบว่า เยาวชน 69 % ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง 24 % เท่านั้นที่สามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องเอดส์และเพศสู่เพื่อนเยาวชนได้อย่างถูกต้องทั้งนี้ 93 % คิดว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ควรมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเอดส์ในเยาวชน และกว่า 92 % ที่คิดว่ารัฐบาลควรส่งเสริมการรณรงค์ป้องกันเอดส์ในกลุ่มเยาวชน อนึ่งสถานการณ์โรคเอดส์ของไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2527-30 กันยายน 2551 รวม 24 ปีมีผู้ป่วยโรคเอดส์สะสมทั้งหมด 337,989 ราย เป็นชายมากกว่าหญิงในอัตราส่วน 2 ต่อ1 เสียชีวิตแล้ว92,111 รายหรือประมาณ 1 ใน4 ของผู้ป่วยทั้งหมดhttp://valentine.kapook.com/,http://hilight.kapook.com/view/33747

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

mukda _ sannarong